Tamas Bykerk เป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับองค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency) เพื่อวิจัยและพัฒนาเครื่องบินที่มีความเร็วเหนือเสียงระดับ Mach 5 ขึ้นไป (Hypersonic Aircraft) จุดประสงค์ของงานวิจัยคือการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเครื่องบินพาณิชย์ที่ใช้ความเร็วระดับ Hypersonic โดยทดสอบความเสถียรในระหว่างการ Takeoff และ Landing ซึ่งถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดของเที่ยวบิน เนื่องจากในตอนออกตัวและก่อนลงจอด เครื่องบินต้องบินด้วยความเร็วที่ต่ำกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้เครื่องบินสูญเสียการควบคุมและปักหัวดิ่งลงพื้นได้
Tamas ใช้เครื่องพิมพ์ UP 3D Printer จำนวน 16 เครื่องในคณะวิศวกรรมศาสตร์สร้างโมเดลเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง โดยใช้วิธีพิมพ์งานเป็นส่วนๆด้วยพลาสติก ABS และนำมาประกอบเป็นเครื่องบิน จากนั้นจึงนำไปทดสอบในอุโมงค์ลม เพื่อศึกษาปัจจัยต่างๆที่มีผลกระทบต่อการบิน เช่นความเร็วลม องศา แรงต้าน การใช้ 3D Printer ช่วยให้ทีมงานของ Tamas ปรับเปลี่ยน Design ของเครื่องบินได้อย่างรวดเร็ว ทั้งส่วนปีก หางเสือ และลำตัวเครื่อง "โมเดลเครื่องบินส่วนมากมักผลิตจากเครื่อง CNC ซึ่งมีราคาแพง การใช้ 3D Printer ไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้เราพัฒนาเครื่องบินประสิทธิภาพสูงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เครื่องบิน Hypersonic เข้าใกล้ความเป็นจริงมากกว่าเดิม" Tamas กล่าว
ออกแบบสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด
ด้วยเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
Tiertime UP 3D Printer