Robot End Effectors (End-of-arm Tooling) หรือกริปเปอร์หุ่นยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งที่ปลายแขนของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในระบบ Automation เพื่อใช้หยิบจับชิ้นงานในไลน์ผลิต เปรียบเสมือนนิ้วมือของหุ่นยนต์ ด้วยรูปทรงที่มีความซับซ้อน และปริมาณการผลิตต่อครั้งที่มีจำนวนน้อย ทำให้การผลิตกริปเปอร์ด้วยกระบวนการแบบดั้งเดิมเช่น CNC Machining มีต้นทุนสูงและใช้เวลานาน การผลิตชิ้นส่วนกริปเปอร์ด้วย 3D Printer จึงเป็นตัวเลือกในการผลิต Tooling อีกรูปแบบซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง
- สามารถผลิตกริปเปอร์ที่มีน้ำหนักเบา ทำให้แขนหุ่นยนต์สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น เพิ่มผลผลิตในการทำงาน (ในบางกรณี สามารถเลือกใช้แขนหุ่นยนต์ที่มีขนาดเล็กและราคาถูกกว่าเดิม)
- วัสดุ 3D Printing ชนิด Carbon Fiber มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงกระแทกและการกัดกร่อนจากสารเคมี สามารถใช้ทดแทนชิ้นส่วนอลูมิเนียม
- สามารถออกแบบกริปเปอร์ให้มีรูปทรงเข้ากับชิ้นงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการหยิบจับ ง่ายต่อการปรับเปลี่ยน Design
- สามารถผลิตกริปเปอร์ได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการ โดยไม่ต้องเก็บสต็อคหรือรอสั่งผลิตจาก Supplier
Case Study: Dixon Valve
บริษัท Dixon Valve ผู้ผลิตอุปกรณ์ข้อต่อท่อรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ใช้เครื่องพิมพ์ Markforged Mark Two 3D Printer ผลิตกริปเปอร์ชุดใหม่ภายใน 24 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องรอสั่งผลิตนานถึง 6 วัน และลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 97% โดยกริปเปอร์ที่พิมพ์จากวัสดุ Carbon Fiber สามารถหยิบจับชิ้นงานเหล็กสแตนเลสได้หลายพันครั้งโดยไม่เกิดการสึกหรอ
Case Study: ProCobots
ProCobots เป็นบริษัทผู้ผลิตระบบ CNC Automation โดยใช้แขนหุ่นยนต์ Universal Robots หยิบชิ้นงานออกจากเครื่อง CNC รวมถึงพลิกด้านและจัดเรียงชิ้นงานแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีคนเฝ้าเครื่อง ซึ่งระบบนี้ถูกออกแบบให้เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานได้ง่าย โดยใช้วิธีสับเปลี่ยนชุดกริปเปอร์ด้วยชิ้นส่วนที่พิมพ์จาก 3D Printer ช่วยให้ Machine Shop สามารถตอบสนองงานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการผลิต End Effector เฉลี่ย 97% และลดเวลาการผลิตถึง 88%
เริ่มต้นผลิตชิ้นงาน 3D ที่แข็งแกร่งเท่าอลูมิเนียมด้วย
Markforged 3D Printer