3D Printing for Packaging & Consumer Goods
อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ผู้ผลิตสามารถสร้างต้นแบบชิ้นงาน ไม่ว่าจะเป็นขวด แกลลอน กล่อง หรือภาชนะรูปทรงต่างๆ ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เทียบกับการฉีดพลาสติกทำโมลด์แบบดั้งเดิม ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ต้นทุนการผลิตชิ้นงานต้นแบบสามารถลดลงได้ถึง 90% หรือมากกว่า เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือราคาแพง ยังไม่นับค่าเวลา หรือค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ ต้นแบบชิ้นงาน 3 มิติ สามารถนำไปทดสอบการใช้งานได้ ตลอดจนการทดลองใช้งานตามหลักสรีรศาสตร์ หรือเพื่อตรวจดูรูปทรง ความสวยงามของชิ้นงาน ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขแบบกี่ครั้งก็ได้ และพิมพ์ชิ้นงานซ้ำใหม่ได้เรื่อยๆ ในต้นทุนที่ต่ำ จนกว่าจะพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ก่อนนำแบบชิ้นงานไปผลิตจริง
The packaging and consumer goods industry can benefit greatly from 3D printing. Using 3D printers, accurate prototypes can be produced in a matter of hours, compared to weeks or months using traditional mold-making methods. The cost of producing prototypes can be reduced by 90% or more since no expensive tooling is required. 3D printed prototypes can be used for functional testing, as well as for checking ergonomics and visual appeal. Multiple design iterations can be produced at a very low cost to ensure the perfect form, fit, and function.