3D Printing for Footwear
กระบวนการผลิตรองเท้ามักเริ่มจากการสร้างแม่แบบรูปเท้า แต่ด้วยรูปทรงของเท้าที่มีส่วนโค้งเว้า กระบวนการทำแม่พิมพ์แบบดั้งเดิมโดยใช้เครื่องกลึงนั้นค่อนข้างยากและใช้เวลานาน แต่ประเด็นเหล่านี้จะหมดไป เนื่องจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติสามารถสร้างต้นแบบโมเดลรองเท้าจากดีไซน์ CAD ได้อย่างแม่นยำ และนำไปใช้ต่อในกระบวนการผลิตได้จริง โดยที่สามารถปรับแต่ง แก้ไขขนาดและรูปทรงได้อย่างใจ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ผลิตลดต้นทุนค่าแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างชัดเจน
ด้วยการวิจัยและพัฒนาวัสดุการพิมพ์ชนิดยืดหยุ่น (Flexible Filament) บริษัท start-up หรือแม้กระทั่งบริษัทใหญ่ในวงการ ล้วนเลือกที่จะนำเอาเครื่องพิมพ์ 3 มิติเข้ามาใช้ในการผลิตรองเท้า ยกตัวอย่างเช่นรองเท้าวิ่งยี่ห้อ Nike ที่มีน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพสูง หรือรองเท้าเพื่อสุขภาพที่มีการบุภายในเป็นพิเศษเพื่อดูแลรักษาอาการเจ็บปวดที่เท้า
The process of making shoes involves creating molds or lasts to fit the shape of the shoe and the insole. Creating the shoe lasts by traditional milling machines is a difficult and time-consuming process, due to the curved organic shape of the foot. A 3D printer can accurately replicate the shoe last model from CAD design which can be used in production. This greatly reduces the labor cost and improves productivity. Different shapes or shoe sizes can be readily fabricated simply by adjusting the CAD file.
With the development of flexible 3D printing materials, various startups and large companies have explored 3D printing as an option to produce customized footwear. This includes Nike's light-weight high-performance running shoes, or 3D-printed custom shoe insole for treatment of foot pain.