ปลดล็อคมิติใหม่ของการผลิตด้วย Markforged FX10 3D Printer

ในโลกของอุตสาหกรรมการผลิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ พบกับ Markforged FX10 เครื่องพิมพ์ 3 มิติรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Markforged ผู้นำเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ให้นิยามใหม่ของความแม่นยำและความรวดเร็วในการผลิตแบบ Additive Manufacturing ไม่ว่าคุณจะเป็นวิศวกร นักออกแบบ ผู้ผลิตที่มีความคิดก้าวหน้า หรือธุรกิจที่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ FX10 เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถอัพเกรดการผลิตชิ้นส่วนให้คุณได้ในทุกมิติ

เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Markforged FX10 ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ชนิด Continuous Fiber Reinforcement (CFR) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Markforged โดยเครื่องพิมพ์จะทำการฉีดขึ้นรูปชิ้นงานด้วยวัสดุพลาสติก และมีหัวฉีดที่สองทำหน้าที่วางเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์เสริมเข้าไปในตัวชิ้นงาน ทำให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงมากกว่าพลาสติกจาก 3D Printer ทั่วไปถึง 25 เท่า ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานทดแทนชิ้นส่วน CNC หรือชิ้นส่วนอลูมิเนียมได้โดยตรง ช่วยให้ผู้ผลิตพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาดได้รวดเร็วกว่าเดิม ลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนสินค้าคงคลัง และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา Supplier

Markforged FX10 เป็นเครื่องพิมพ์ 3 มิติระดับอุตสาหกรรมเครื่องแรกของโลกที่สามารถพิมพ์ทั้งโลหะและวัสดุคอมโพสิตในเครื่องเดียวกัน ช่วยให้คุณสามารถสลับระหว่างการพิมพ์พลาสติกและโลหะได้อย่างราบรื่น สิ่งนี้ทำให้ FX10 รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งชิ้นงาน Prototype งาน Jigs & Fixtures และชิ้นส่วนประกอบไลน์ผลิตต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องพิมพ์ 3D ทั่วไปที่รองรับเฉพาะพลาสติกหรือโลหะเท่านั้น FX10 จึงสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้กว้างกว่า

วัสดุที่รองรับมีหลากหลายชนิด เช่น Onyx (ไนลอนผสมเส้นใยคาร์บอนขนาดเล็ก) วัสดุหน่วงการติดไฟสำหรับใช้งานอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและยานยนต์ วัสดุที่ปลอดภัยต่อการปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต (ESD-Safe) สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และคาร์บอนไฟเบอร์ สำหรับวัสดุโลหะ เบื้องต้นรุ่น FX10 จะรองรับวัสดุสเตนเลสสตีล 17-4PH และ 316L โดยจะมีการพัฒนาและรับรองวัสดุใหม่ๆอยู่เป็นระยะ วัสดุเหล่านี้ให้ความแข็งแกร่งและความทนทานที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิ้นงานต้นแบบจนถึงชิ้นส่วนที่ใช้งานจริง

ทุกส่วนประกอบของ Markforged FX10 ได้รับการออกแบบมาให้ผลิตชิ้นส่วนที่แข็งแกร่งและแม่นยำได้อย่างน่าเชื่อถือ ด้วยซอฟต์แวร์ Inspection และ Simulation ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบความแข็งแรงและคุณภาพของชิ้นงานทั้งก่อนและหลังการพิมพ์ FX10 ช่วยให้มั่นใจได้ว่างานพิมพ์ทุกชิ้นจะออกมาตรงสเปค ลดอัตราการ Reject ชิ้นงาน ระบบ Laser Calibration ของ FX10 ทำหน้าที่ตรวจสอบขนาดและปรับปรุงการพิมพ์งานแบบเรียลไทม์ การันตีคุณภาพพื้นผิวชิ้นงานที่ไร้ที่ติ นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับเครื่องพิมพ์แบบอัตโนมัติ ช่วยลดความผิดพลาดจากผู้ใช้งาน (Human Error) และมีพื้นที่ห้องพิมพ์ที่ทำความร้อนสูงถึง 60 องศาเซลเซียส ให้ผลลัพธ์งานพิมพ์ที่มีความแม่นยำสูงสุด

ในโลกแห่งการผลิต เวลาคือเงิน เครื่องพิมพ์ FX10 รองรับการพิมพ์งานที่ความเร็วสูงโดยไม่กระทบต่อคุณภาพชิ้นงาน ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งและระบบหัวพิมพ์ที่ได้รับการปรับปรุงมาตลอดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ช่วยให้สามารถสร้างชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว โดยให้ความเร็วในการพิมพ์สูงกว่าเครื่องพิมพ์ 3D รุ่นก่อนถึงสองเท่า ความสามารถในการออกแบบและทำซ้ำอย่างรวดเร็วไม่เพียงแต่ช่วยเร่งกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย

Markforged FX10 ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ Eiger ที่ใช้งานง่ายของ Markforged เป็นแพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ที่ช่วยปรับปรุงกระบวนการพิมพ์ทั้งหมด โปรแกรม Eiger ช่วยให้การอัพโหลดไฟล์งาน เลือกวัสดุ และจัดการการพิมพ์ทำได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ในโลก รวมถึงฟังก์ชั่นหลากหลายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพิมพ์งาน 3D เช่นระบบจัดเก็บชิ้นงานแบบดิจิทัล ฟังก์ชั่นการจำลองความแข็งแกร่งของชิ้นงาน และการตรวจสอบการสถานะงานพิมพ์แบบเรียลไทม์ และอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าแม้แต่โปรเจ็คที่ซับซ้อนก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

ในโลกแห่งการผลิต ความน่าเชื่อถือหรือ Reliability ของเครื่องจักรเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เครื่องพิมพ์ FX10 สร้างมาเพื่อให้ทำงานอย่างต่อเนื่องและทนทานต่อการใช้งานหนักในอุตสาหกรรม ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลายร้อยตัวที่ใช้บันทึกข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงคุณภาพการพิมพ์อย่างต่อเนื่อง การันตีความมั่นใจด้วยการทดสอบมากกว่า 50,000 ชั่วโมง Markforged FX10 ได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับเครื่องจักรที่เชื่อถือได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วย FX10 คุณสามารถวางใจได้ว่าเครื่องพิมพ์ของคุณจะพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่

Markforged FX10 ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability) อีกด้วย การผลิตชิ้นงานด้วยการพิมพ์ 3 มิติช่วยลดการสิ้นเปลืองวัสดุและทำให้เกิดการผลิตใกล้กับจุดที่ใช้งาน ช่วยสนับสนุนแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนคุณภาพสูงภายในบริษัทสามารถลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม เช่นสามารถผลิตชิ้นงานที่ต้องการเพียงชิ้นเดียวได้ ไม่ต้องมีปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำ (MOQ) ไม่ต้องเปิดแม่พิมพ์ รวมถึงประหยัดค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน

เครื่องพิมพ์ 3D Markforged FX10 นอกจากจะเป็นเครื่องมือการผลิตที่ล้ำหน้า ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างนวัตกรรม เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ และก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆของการผลิต เปิดรับอนาคตของอุตสาหกรรมวันนี้ด้วย Markforged FX10 และเปลี่ยนไอเดียของคุณให้กลายเป็นความจริงด้วยประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้